- หน้าหลัก
- สาระน่ารู้
- เลคเชอร์กฎหมาย
- คำถาม : คดีความผิดอาญาอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หากพนักงานสอบสวนต้องการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์เก็บตัวอย่างเลือด กรณีจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ต้องหาหรือไม่ ?
คำถาม : คดีความผิดอาญาอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หากพนักงานสอบสวนต้องการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์เก็บตัวอย่างเลือด กรณีจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ต้องหาหรือไม่ ?
คำถาม : คดีความผิดอาญาอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หากพนักงานสอบสวนต้องการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์เก็บตัวอย่างเลือด กรณีจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ต้องหาหรือไม่ ?
คำตอบ : ไม่ต้องเพราะเป็นคดีที่มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 131/1
เป็นไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 131/1 วรรคสองที่บัญญัติว่า "ในกรณีความผิดอาญาที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 3 ปี หากการตรวจพิสูจน์ตามวรรคหนึ่ง จำเป็นต้องตรวจเก็บตัวอย่างเลือด เนื้อเยื่อ ผิวหนัง เส้นผมหรือขน น้ำลาย ปัสสาวะ อุจจาระ สารคัดหลั่ง สารพันธุกรรมหรือส่วนประกอบของร่างกายจากผู้ต้องหา ผู้เสียหายหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบมีอำนาจให้แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญดำเนินการตรวจดังกล่าวได้ แต่ต้องกระทำเพียงเท่าที่จำเป็นและสมควรโดยใช้วิธีการที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดน้อยที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ ทั้งจะต้องไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายหรืออนามัยของบุคคลนั้น และผู้ต้องหา ผู้เสียหาย หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องให้ความยินยอม หากผู้ต้องหาหรือผู้เสียหายไม่ยินยอมโดยไม่มีเหตุอันสมควรหรือผู้ต้องหาหรือผู้เสียหายกระทำการป้องปัดขัดขวางมิให้บุคคลที่เกี่ยวข้องให้ความยินยอมโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้สันนิษฐานไว้เบื้องต้นว่าข้อเท็จจริงเป็นไปตามผลการตรวจพิสูจน์ที่หากได้ตรวจพิสูจน์แล้วจะเป็นผลเสียต่อผู้ต้องหาหรือผู้เสียหายนั้น แล้วแต่กรณี"
ในกรณีที่มีการจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงโดยวิธีการเก็บตัวอย่างเลือดของร่างกายจากผู้ต้องหา ผู้เสียหาย หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง (กรณีตรวจจากส่วนประกอบของร่างกายผู้ต้องหา) ให้พิจารณาว่าเป็นคดีที่มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือไม่ ถ้าไม่เกิน ไม่มีเงื่อนไขกำหนดว่าจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ต้องหา แต่หากเป็นคดีที่มีอัตราโทษจำคุกเกิน 3 ปี จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ต้องหา หากไม่ให้ความยินยอมจะบังคับตรวจมิได้ เพียงแต่จะเกิดผลต่อไปตามมาตรา 131/1 วรรคสองที่ให้สันนิษฐานไว้เบื้องต้นว่าข้อเท็จจริงเป็นไปตามผลการตรวจพิสูจน์ที่หากได้ตรวจพิสูจน์แล้วจะเป็นผลเสียต่อผู้ต้องหาหรือผู้เสียหายนั้น
คำพิพากษาฎีกาที่ 5886/2558 คดีความผิดอาญาที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปีเท่านั้น หากพนักงานสอบสวนจะทำการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ พนักงานสอบสวนจะต้องดำเนินการตามที่กำหนดไว้ใน ป.วิ.อ. มาตรา 131/1 วรรคสอง คดีนี้ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า เป็นคดีความผิดอาญาที่มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี จึงไม่อยู่ในบังคับของบทบัญญัติดังกล่าว
การที่พนักงานสอบสวนพบจำเลยนอนหมดสติอยู่บนเตียงผู้ป่วยและได้กลิ่นสุรา แต่ไม่สามารถตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ได้ จึงเป็นกรณีที่พันตำรวจโท ส. สงสัยว่าจำเลยกระทำความผิดฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือไม่ พันตำรวจโท ส. จึงมีอำนาจที่จะทำการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ตาม ป.วิ.อ.
มาตรา 131/1 วรรคหนึ่ง การที่พันตำรวจโท ส. มีหนังสือขอให้แพทย์ผู้ตรวจรักษาจำเลยเก็บตัวอย่างเลือดของจำเลยเพื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ว่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ จึงเป็นการรวบรวมพยานหลักฐานเท่าที่สามารถจะทำได้ เพื่อประสงค์จะทราบข้อเท็จจริงอันเกี่ยวกับความผิดที่จำเลยถูกกล่าวหาตาม ป.วิ.อ.
มาตรา 131 ประกอบ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวงฯ มาตรา 4 การสอบสวนของพันตำรวจโท ส. พนักงานสอบสวนจึงชอบด้วยกฎหมาย