คำถาม : คดีที่มีคำขอให้กำจัดมิให้ได้รับมรดกกับคำขอเพิกถอนนิติกรรมการรับโอนที่ดินของผู้ตายกลับคืนมาเป็นกองมรดก เป็นคดีมีทุนทรัพย์หรือไม่มีทุนทรัพย์ ? และอยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลแขวงหรือไม่ ?

8 กุมภาพันธ์ 2568

คำถาม : คดีที่มีคำขอให้กำจัดมิให้ได้รับมรดกกับคำขอเพิกถอนนิติกรรมการรับโอนที่ดินของผู้ตายกลับคืนมาเป็นกองมรดก เป็นคดีมีทุนทรัพย์หรือไม่มีทุนทรัพย์ ? และอยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลแขวงหรือไม่ ?


คำตอบ : เป็นคดีมีทุนทรัพย์เป็นคำขอหลัก ส่วนคำขอให้กำจัดมิให้ได้รับมรดกเป็นคำขอต่อเนื่องลำดับรองลงไป ดังนี้เมื่อคำขอหลักมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 300,000 บาท ศาลแขวงจึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคำขอหลักและคำขอรองลงไปด้วยได้ตามมาตรา 142


คำพิพากษาฎีกาที่ 13349/2557 การที่โจทก์ทั้งสามฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนกรรมสิทธิ์และการจำนองในที่ดินพิพาทที่อ้างว่าเป็นทรัพย์มรดกโดยมีคำขอบังคับท้ายฟ้องเน้นให้เพิกถอนและให้โอนคืนตามลำดับก็เพื่อเรียกร้องให้ได้ที่ดินพิพาทกลับคืนมาเป็นทรัพย์มรดกเพื่อประโยชน์แก่ทายาทของ ป. ผู้ตาย รวมทั้งประโยชน์แก่โจทก์ทั้งสามด้วย คดีของโจทก์ทั้งสามจึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ และมีทุนทรัพย์ตามจำนวนราคาที่ดินพิพาทจำนวน 233,000 บาท ซึ่งไม่เกิน 300,000 บาท คดีจึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแขวงสุพรรณบุรี แม้โจทก์จะมีคำขอให้กำจัดจำเลยที่ 1 ไม่ให้รับมรดกของ ป. ซึ่งเป็นคดีที่ไม่มีทุนทรัพย์มาด้วย ก็เป็นคำขอต่อเนื่องลำดับที่รองลงไป เมื่อศาลแขวงสุพรรณบุรีมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคำขอหลักดังกล่าวข้างต้นแล้ว ก็มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคำขออื่นที่รองลงไปนั้นได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142


รายการที่ 1 - 1 จาก 1