- หน้าหลัก
- สาระน่ารู้
- เลคเชอร์กฎหมาย
- การสอบปากคำผู้เสียหายหรือพยายเด็ก ป.วิ.อ มาตรา 133 ทวิ
การสอบปากคำผู้เสียหายหรือพยายเด็ก ป.วิ.อ มาตรา 133 ทวิ
1️⃣ การถามปากคำผู้เสียหาย พยาน หรือผู้ต้องหาที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี ต้องจัดให้มีบุคคล (สหวิชาชีพ) เฉพาะ 8 กลุ่มฐานความผิดนี้เท่านั้น ได้แก่ 1.) ในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศ 2.) ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกายอันมิใช่ความผิดที่เกิดจากการชุลมุนต่อสู้ 3.) ความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพ 4.) ความผิดฐานกรรโชก 5.) ชิงทรัพย์และปล้นทรัพย์ตาม ป.อ. 6.) ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี 7.) ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้าหญิงและเด็ก 8.) ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ
ดังนั้น ถ้าเป็นคดีความผิดอื่นที่มีเพียงอัตราโทษจำคุกที่มิได้อยู่ในกลุ่ม 8 ฐานความผิด เด็กต้องร้องขอ พนักงานสอบสวนจึงจะจัดให้มีสหวิชาชีพ (ฎีกาที่ 7060/2554)
ส่วนความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียว แม้เด็กร้องขอก็ไม่จำต้องปฏิบัติตามมาตรา 133 ทวิ
2️⃣ วิธีการ
1. ให้พนักงานสอบสวนแยกกระทำเป็นส่วนสัดในสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับเด็ก
2. จัดให้มีสหวิชาชีพเข้าร่วมการถามปากคำเด็ก
- นักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์
- บุคคลที่เด็กร้องขอ
- พนักงานอัยการ
3. ต้องจัดให้มีการบันทึกภาพและเสียงการสอบปากคำ
3️⃣ ข้อยกเว้นให้พนักงานสอบสวนถามปากคำเด็กได้โดยไม่ต้องมีสหวิชาชีพครบทุกคน ในกรณีจำเป็นเร่งด่วนอย่างยิ่ง ซึ่งมีเหตุอันควรไม่อาจรอนักจิตวิทยา หรือนักสังคมสงเคราะห์ บุคคลที่เด็กร้องขอ และพนักงานอัยการเข้าร่วมในการถามปากคำพร้อมกันได้ (ตามมาตรา 133 ทวิ)
3.1 ให้พนักงานสอบสวนถามปากคำเด็กโดยมีบุคคลใดบุคคลหนึ่ง (1. นักจิตวิทยา หรือนักสังคมสงเคราะห์ 2. บุคคลที่เด็กร้องขอ 3. พนักงานอัยการ) ตามวรรคหนึ่งอยู่ร่วมด้วยก็ได้
3.2 แต่ต้องบันทึกเหตุที่ไม่อาจรอบุคคลอื่นไว้ในสำนวนการสอบสวน และมิให้ถือว่าการถามปากคำผู้เสียหายหรือพยานซึ่งเป็นเด็กในกรณีดังกล่าวที่ได้กระทำไปแล้วไม่ชอบด้วยกฎหมาย
สังเกต
⭐️ อายุเด็กไม่เกิน 18 ปี ให้ถือขณะที่มีการสอบปากคำ (ฎีกาที่ 2132/2548) หากมีกรณีที่มีการสอบสวนเด็กเพิ่มเติม ก็ยังคงต้องอยู่ในบังคับ มาตรา 133 ทวิ เช่นกัน เว้นแต่
ตอนสอบสวนเพิ่มเติม เด็กนั้นอายุเกิน 18 ปี แล้ว
⭐️ มาตรา 133 ทวิ ไม่นำไปใช้กับการนำตัวผู้ต้องหาไปชี้ที่เกิดเหตุ เพราะมาตรา 133 ตรี กำหนดวิธีปฏิบัติไว้เป็นการเฉพาะ (ฎีกาที่ 647/2549)
⭐️ มาตรา 133 ทวิ ไม่นำไปใช้ในชั้นจับกุม (ฎีกาที่ 3753/2560)
⭐️ ต้องมีการบันทึกภาพและเสียงการสอบปากคำดังกล่าวไว้ด้วย ตามมาตรา 133 ทวิ วรรคสี่ แม้จะขาดการบันทึกภาพและเสียงที่สามารถนําออกมาถ่ายทอดได้อย่างต่อเนื่อง ก็ไม่มีบทบัญญัติใดห้ามมิให้รับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่น (ฎีกาที่ 3500/2559)
⭐️ การสอบปากคำผู้เสียหายซึ่งมีความบกพร่องทางสติปัญญา ไม่มีกฎหมายกำหนดเกี่ยวกับวิธีการสอบสวนเอาไว้ จะนำ ป.วิ.อ. ม.133 ทวิ มาใช้บังคับก็มิได้ ดังนั้น การที่พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำผู้เสียหายที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาเหมือนอย่างการสอบปากคำบุคคลปกติ จึงชอบแล้ว (ฎีกาที่ 5922/2562)
⭐️ แม้พนักงานสอบสวนปฏิบัติไม่ถูกต้องตามมาตรา 133 ทวิ ก็ไม่ทำให้การสอบสวนเสียไป หากแต่มีผลเพียงทำให้ถ้อยคำนั้นไม่สามารถใช้รับฟังในชั้นพิจารณาได้ ตามมาตรา 226 (ฎีกาที่ 10265/2551)
⭐️ แม้ไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรา 133 ทวิ แต่ในชั้นพิจารณา จำเลยแถลงยอมรับข้อเท็จจริงว่าพยานเด็กให้การต่อพนักงานสอบสวนตามบันทึกคำให้การไว้จริง ศาลย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ (ฎีกาที่ 12458/2556)