สรุปหลักกฎหมาย เรื่อง การตรวจคำคู่ความ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 18

5 ตุลาคม 2568

สรุปหลักกฎหมาย เรื่อง การตรวจคำคู่ความ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 18


1️⃣ ป.วิ.พ. มาตรา 18 วรรคหนึ่ง: อำนาจศาลในการตรวจคำคู่ความ⚖️

   📍 คำคู่ความตาม ป.วิ.พ. มาตรา 1 (5) หมายถึง บรรดาคำฟ้อง คำให้การ หรือคำร้องทั้งหลายที่ยื่นต่อศาลเพื่อตั้งประเด็นระหว่างคู่ความ

   📍 คำฟ้องตาม ป.วิ.พ. มาตรา 1 (3) รวมถึงอุทธรณ์/ฎีกาด้วย 

   📍 คำฟ้อง ศาลสามารถยกฟ้องตาม ป.วิ.พ.มาตรา 172 วรรคท้ายได้ทันทีโดยไม่ต้องสั่งรับคำฟ้องไว้ก่อน


2️⃣ ป.วิ.พ. มาตรา 18 วรรคสอง: คำคู่ความบกพร่อง 7 เรื่อง📝

   2.1 อ่านไม่ออก

   2.2 อ่านไม่เข้าใจ 

   2.3 เขียนฟุ่มเฟือยเกินไป

   2.4 ไม่มีรายการ 

   2.5 ไม่มีลายมือชื่อ

   2.6 ไม่แนบเอกสารต่างๆตามที่กฎหมายต้องการ 

   2.7 ไม่ได้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลโดยถูกต้องครบถ้วน


3️⃣ ป.วิ.พ. มาตรา 18 วรรคสาม: คำคู่ความบกพร่อง 2 เรื่อง📝

   3.1 บกพร่องเรื่องเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด

   3.2 บกพร่องเรื่องเขตอำนาจศาล


4️⃣ ป.วิ.พ. มาตรา 18 วรรคสี่: ไม่มีข้อบกพร่องให้รับคำคู่ความ👌✅


5️⃣ ป.วิ.พ. มาตรา 18 วรรคห้า: การอุทธรณ์คำสั่งไม่รับหรือคืนคำคู่ความ📤

   5.1 ศาลชั้นต้นสั่งให้แก้ไขเพิ่มเติมคำคู่ความ: เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 226 (2)

   5.2 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับหรือให้คืนคำคู่ความ: ไม่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 227

     📌 ทราบคำสั่ง อุทธรณ์ได้ภายใน 1 เดือนนับแต่วันมีคำสั่งเป็นต้นไปตาม ป.วิ.พ. มาตรา 229

     📌 ยังไม่ทราบคำสั่ง อุทธรณ์ได้ภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่ทราบคำสั่ง (ฎ.1176/2564)

   5.3 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำคู่ความ: เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 226

   5.4 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้แก้ไขเพิ่มเติมอุทธรณ์หรือมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์: ไม่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 227

   5.5 ศาลชั้นต้นมีอำนาจเพียงสั่งให้แก้ไขเพิ่มเติมฎีกา หากคู่ความไม่ปฏิบัติตามต้องส่งให้ศาลฎีกาพิจารณาสั่ง (ข้อกำหนดประธานศาลฎีกาว่าด้วยการขออนุญาตฎีกาในคดีแพ่ง พ.ศ. 2558 ข้อ 8)

     ศาลชั้นต้นไม่มีอำนาจสั่งรับหรือไม่รับฎีกาเพราะฎีกาเป็นระบบอนุญาตตาม ป.วิ.พ. มาตรา 247 วรรคหนึ่ง

รายการที่ 1 - 8 จาก 8