- หน้าหลัก
- สาระน่ารู้
- ชุดภาพหลักกฎหมาย
- สรุปหลักกฎหมาย เรื่อง ความผิดฐานทำให้แท้งลูก ตาม ป.อ. มาตรา 301-305
สรุปหลักกฎหมาย เรื่อง ความผิดฐานทำให้แท้งลูก ตาม ป.อ. มาตรา 301-305
สรุปหลักกฎหมาย เรื่อง ความผิดฐานทำให้แท้งลูก ตาม ป.อ. มาตรา 301-305
▶️ พิจารณา
⚠️ แท้งลูก หมายถึง ทำให้เด็กที่ปฏิสนธิขึ้นในครรภ์ของหญิงถูกทำลายก่อนที่จะคลอด หรือคลอดมาแล้วไม่มีสภาพเป็นบุคคล
⚠️⚠️ หากเด็กคลอดออกมาแล้วมีชีวิต แม้มีชีวิตเพียงแค่วินาทีเดียวแล้วถึงแก่ความตาย เช่นนี้ ไม่ใช่การแท้งลูกสำเร็จ (เป็นความผิดฐานพยายามทำให้ตนเองแท้งลูก) ***
📍ในส่วนของวิธีการทำแท้ง สามารถทำได้โยไม่จำกัดวิธี เช่นใช้กำลังทำร้าย (พิจารณา มาตรา 295-298 ประกอบด้วย) หรืออาจจะใช้ยาทำให้แท้งก็ได้
✅ มาตรา 301 : หญิงทำ/ยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนแท้งลูก
1️⃣ ผู้กระทำความผิดตามมาตรา 301 ต้องเป็น “ตัวหญิงซึ่งตั้งครรภ์” ดังนั้น มาตรา 301 จึงเป็นบทความผิดที่อาศัยคุณสมบัติเฉพาะตัว คือเป็น “หญิงท้อง” จึงไม่อาจมีตัวการร่วมหรือผู้ใช้ให้กระทำความผิดได้ (แต่มีผู้สนับสนุนได้) ส่วนผู้อื่นที่ทำให้หญิงแท้งลูก ไม่ถือว่าเป็นตัวการร่วมตามมาตรา 301, 83 เพราะผู้ที่ทำให้หญิงอื่นแท้งลูก (โดยหญิงยินยอม) มีบทบัญญัติความผิดไว้โดยเฉพาะแล้ว คือ ม.302
2️⃣ การกระทำ คือ ทำให้ตนเองแท้งลูก, ยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนแท้งลูก (ส่วนผู้ที่มาทำแท้งให้ก็จะมีความผิดตามมาตรา 302) ดังนั้น หากมีการทำแท้งแล้ว ปรากฏว่าลูกคลอดออกมาในลักษณะที่ยังมีชีวิต ถือว่าเป็นเพียงความผิดฐานพยายามทำให้ตน/ยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนแท้งลูกตามมาตรา 301, 80 ผลคือ ไม่ต้องรับโทษสำหรับการกระทำผิดนั้นตามมาตรา 304
3️⃣ ต้องเป็นการทำให้แท้งลูก ในขณะที่หญิงนั้นมีครรภ์เกิน 12 สัปดาห์แล้วเท่านั้น (กฎหมายแก้ไขใหม่)
ดังนั้น ถ้าหญิงมีอายุครรภ์ยังไม่เกิน 12 สัปดาห์ การกระทำของหญิงตามมาตรา 301 ก็ถือว่าขาดองค์ประกอบภายนอกของความผิดไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มาทำแท้งให้หญิงลูก ไม่ว่าหญิงจะยินยอมหรือไม่ ยังคงมีความผิดตามมาตรา 302 หรือ มาตรา 303 อยู่ เพราะสองมาตรานี้ กฎหมายไม่ได้แก้ไขใหม่