สรุปหลักกฎหมาย เรื่อง คำสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 132

21 มกราคม 2568

สรุปหลักกฎหมาย เรื่อง คำสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 132


🔴คำสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ

📌1. คำสั่งจำหน่ายคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 132 ไม่ใช่บทบังคับเด็ดขาดว่าถ้ามีเหตุตามที่มาตรา 132 บัญญัติไว้แล้ว ศาลต้องมีคำสั่งจำหน่ายคดีเสมอไป ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจไม่จำหน่ายคดีได้ 

📌2. ตามตัวบท ใช้คำว่า “โดยไม่ต้องมีคำวินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นเรื่องนั้น” แสดงว่า การจำหน่ายคดี ต้องไม่มีคำวินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นแห่งคดี หากมีการวินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นแห่งคดี แม้เพียงบางประเด็น ศาลก็จะใช้วิธีจำหน่ายคดีไม่ได้ แต่ต้องทำเป็นคำพิพากษาหรือคำสั่ง (ฎ.825/2510)

📌3. คำสั่งจำหน่ายคดีจากสารบบความ มีได้ทั้งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา เพียงแต่เฉพาะบางกรณีมีได้เฉพาะในศาลชั้นต้นเท่านั้น เช่น ตามมาตรา 193 ทวิ มาตรา 201 มาตรา 202 มาตรา 28 เป็นต้น

📌4. การจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความเป็นอำนาจของแต่ละชั้นศาลที่จะมีคำสั่ง ถ้าคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลใด ก็เป็นอำนาจของศาลนั้นที่จะพิจารณาสั่ง เช่น จำเลยยื่นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์และให้จำเลยนำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่โจทก์เพื่อให้โจทก์แก้ แต่จำเลยไม่จัดการนำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้โจทก์ ถือว่าจำเลยทิ้งอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นต้องส่งสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความของศาลอุทธรณ์ตามมาตรา 174 (2) ประกอบ มาตรา 246 (ฎ.6201/2550)

📌5. คำสั่งจำหน่ายคดีตามมาตรา 132 ทำให้คดีเสร็จเด็ดขาดไปจากศาล แตกต่างจาก “คำสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราว” ไม่ใช่คำสั่งจำหน่ายคดีตามความหมายของมาตรา 132 คดียังไม่เสร็จเด็ดขาดไปจากศาล (ฎ.421/2524)

📌6. คำสั่งจำหน่ายคดีของศาลชั้นต้น เป็นกรณีที่ศาลยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นแห่งคดี โจทก์จึงฟ้องใหม่ได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำตามมาตรา 148 หรือดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำตามมาตรา 144

รายการที่ 1 - 8 จาก 8