- หน้าหลัก
- สาระน่ารู้
- ชุดภาพหลักกฎหมาย
- สรุปหลักกฎหมาย เรื่อง การออกหมายเรียก ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 52
สรุปหลักกฎหมาย เรื่อง การออกหมายเรียก ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 52
สรุปหลักกฎหมาย เรื่อง การออกหมายเรียก ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 52
🔴การออกหมายเรียก เพื่อให้บุคคลใดมาที่พนักงานสอบสวน พนักงานฝ่ายปกครอง ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เนื่องในการสอบสวน
🔴การออกหมายเรียก เพื่อให้บุคคลใดมาศาลเนื่องในการไต่สวนมูลฟ้อง
🔴การออกหมายเรียก เพื่อให้บุคคลใดมาศาลเนื่องในการพิจารณาคดี
✅ข้อพิจารณา
1) หมายเรียกต้องทำเป็นหนังสือเท่านั้น (มาตรา 53) ดังนั้น การหมายเรียกไม่อาจทำด้วยวาจาได้ ยกเว้นแต่ กรณีพนักงานสอบสวน หรือพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ไปทำการสอบสวนด้วยตนเอง ย่อมมีอำนาจที่จะเรียกผู้ต้องหาหรือพยานมาได้โดยไม่ต้องออกหมายเรียกได้ (มาตรา 52 วรรคสอง)
2) ผู้มีอำนาจออกหมายเรียก ได้แก่ พนักงานสอบสวน หรือพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ศาล แตกต่างกับหมายอาญา มาตรา 57 (หมายจับ/ค้น/ขัง/จำคุก/ปล่อย) ที่ผู้มีอำนาจออกหมายอาญาจำกัดเฉพาะศาลเท่านั้น
3) หมายเรียก ไม่มีกฎหมายกำหนดว่าจะต้องมีเหตุในออกหมายเรียกอย่างไรไว้เป็นการเฉพาะ แตกต่างกับหมายจับ หมายค้น ที่ต้องมีเหตุในการออกหมายฯ ตามมาตรา 66 หรือ มาตรา 67 ดังนั้น หมายเรียกจึงต้องเป็นการออกเพื่อให้บุคคลใดมาเนื่องในการสอบสวน การไต่สวนมูลฟ้อง การพิจารณาคดี เท่านั้น
4) หมายเรียก เป็นหมายที่สั่งให้ “บุคคลใดมา...”
ดังนั้น บุคคลที่ถูกหมายเรียก จะเป็นใครก็ได้ เช่น เป็นพยาน ผู้ต้องสงสัย ผู้เสียหาย หรือผู้ต้องหาก็ได้
5) เฉพาะการหมายเรียกบุคคลซึ่งน่าจะได้กระทำความผิดอาญา หากหมายเรียกมาแล้วบุคคลนั้นไม่มาโดยไม่มีข้อแก้ตัว หรือไม่มีเหตุอันสมควร ถือเป็นข้อสันนิษฐาน ว่าบุคคลนั้นจะหลบหนี และอาจเป็นเหตุในการออกหมายจับ ตามมาตรา 66 (2)
6) ถ้าสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว และได้มีส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการตามอำนาจหน้าที่แล้ว ตาม ป.วิ.อ. ม.140 เป็นต้นไป พนักงานสอบสวนนั้นย่อมหมดอำนาจสอบสวนทันที เช่นนี้จึงไม่มีอำนาจออกหมายเรียกบุคคลใดมาสอบสวนได้ หากบุคคลนั้นไม่มาตามหมายเรียก ก็ไม่ต้องด้วยข้อสันนิษฐานว่าบุคคลนั้นจะหลบหนี และเป็นเหตุในการออกหมายจับ ตามมาตรา 66 (2) ได้แต่อย่างใด
7) ในคดีที่นิติบุคคลเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย มาตรา 7 กำหนดให้อำนาจพนักงานสอบสวน หรือศาลสามารถออกหมายเรียกผู้จัดการหรือผู้แทนอื่น ๆ ของนิติบุคคลนั้น ให้ไปยังพนักงานสอบสวนหรือศาล เนื่องในการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้อง หรือการพิจารณาคดีได้ ถ้าผู้จัดการหรือผู้แทนของนิติบุคคลนั้นไม่ปฏิบัติตามหมายเรียก จะออกหมายจับผู้นั้นมาก็ได้ แต่ห้ามมิให้ใช้บทบัญญัติว่าด้วยปล่อยชั่วคราว ขังหรือจำคุกแก่ผู้จัดการหรือผู้แทนนิติบุคคล ในคดีที่นิติบุคคลนั้นเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย